• หลักสูตรมัธยมปลาย (มัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6)
• หลักสูตรเรียนภาษาระยะสั้น ( 2 สัปดาห์ – 3 เดือน)
• หลักสูตรเรียนภาษาระยะยาว (6 เดือน – 2 ปี)
• หลักสูตรวิทยาลัยอาชีวศึกษา (Senmon gakko)

หลักสูตรระยะสั้น (2 สัปดาห์ – 3 เดือน) : ไม่จำเป็น ต้องมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น

หลักสูตรระยะยาว (6 เดือน – 2 ปี) : ใบรับรองสอบวัดระดับ JLPT อย่างน้อย N5 หรือเทียบเท่า หรือ ใบรับรองชั่วโมงเรียนภาษาญี่ปุ่น 150ชั่วโมงขึ้นไป

*สำหรับหลักสูตรระยะสั้นนั้น ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นก็จริง เพียงแต่แนะนำให้ผู้เรียนศึกษาภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นด้วยตนเองก่อนเดินทาง (ตัวอักษร Hiagana/ Katakana/ ประโยคพื้นฐานในชีวิตประจำวัน) ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ทั้งในการใช้ชีวิตประจำวันและในการศึกษาหลักสูตรที่เป็นภาษาญี่ปุ่น

ทุนการศึกษาจะมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่ทางต้นสังกัดในมอบทุนการศึกษานั้น ๆ กำหนด

• ทุน MEXT (Monbukagakusho)
• ทุน JASSO
• ทุนจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
• ทุนจากองค์กรเอกชนสำหรับนักศึกษาต่างชาติ

ที่พักหลัก ๆ จะเเบ่งเป็น 4 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 

1. School Dormitory
2. Sharehouse
3. Private Apartment
4. Homestay

ผู้เรียนสามารถเลือกประเภทที่พักได้ตามความชอบ, ความสะดวกของสถานที่ตั้ง  และงบประมาณที่ตนเองได้ตั้งไว้ 
โดยสามารถหาที่พักด้วยตนเอง หรือติดต่อทางไมนิจิ เพื่อให้ช่วยประสานงานกับ Agency ที่พักในประเทศญี่ปุ่นก้ได้เช่นกัน

นักศึกษาหลักสูตรระยะสั้น (2 สัปดาห์ – 3 เดือน) : ไม่สามารถ ทำงานพิเศษได้

นักศึกษาหลักสูตรระยะยาว (6 เดือน – 2 ปี) : สามารถทำงานพิเศษได้ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงภาคการศึกษา และไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงปิดภาคเรียน

หลักสูตรระยะสั้น

• ใบสมัคร (ติดต่อรับได้ที่เจ้าหน้าที่)
• สำเนาหน้าหนังสือเดินทาง
• รูปถ่ายหน้าตรงพื้นหลังขาวขนาด 2 นิ้ว

หลักสูตรระยะยาว   

• เอกสารในส่วนของผู้สมัคร
  • ใบสมัคร (ติดต่อรับได้ที่เจ้าหน้าที่)
  • สำเนาหนังสือเดินทาง
  • สำเนาวีซ่าที่เคยเข้าออกประเทศ (ถ้ามี)
  • ทะเบียนบ้านแบบ ทร. 14/1
  • เอกสารรับรองการศึกษา/การทำงาน
    • กรณีศึกษาจบแล้ว: ใบรับรองจบการศึกษา
    • กรณีกำลังศึกษาอยู่: หนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษา
  • เอกสารรับรองการเรียนภาษาญี่ปุ่น

• เอกสารในส่วนของผู้ค้ำประกัน
  • ทะเบียนบ้านแบบ ทร. 14/1
  • เเบบเเสดงการเสียภาษี 90 หรือ 91 (หากเป็นเจ้าของธุรกิจใช้ ภงด.50,51)
  • ใบรับรองเงินในธนาคาร (ขั้นต่ำควรมี 800,000บาท)

การไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นไม่มีกำหนดอายุที่ชัดเจนว่าจะต้องอายุเท่าไรถึงจะเรียนได้

โดยหลักเกณฑ์จะพิจารณาจากความสามารถทางการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน และความสามารถทางภาษาเป็นหลัก 
หากเรามีเอกสารชี้เเจงทางโรงเรียนอย่างครบถ้วน เเละ มีประวัติที่ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ ก็สามารถสมัครได้เช่นกัน

เเต่ทั้งนี้จะมีบางสถาบันที่ไม่สามารถรับผู้ที่มีอายุเกินกว่ากำหนดรับ เช่น
– โรงเรียนมัธยมปลาย รับที่อายุ 16-18 ปี
– หลักสูตรปริญญาตรี รับที่ อายุ 18-22 ปี เป็นต้น

ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ของไมนิจิได้เลย!

ในการไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น จำเป็นต้องมีการแสดงหลักฐานการเงินเพื่อสนับสนุนการขอวีซ่าและเอกสาร COE

โดยทั่วไปแล้วควรมีเงินในบัญชีอย่างน้อย 800,000 บาท หรือมากกว่านั้นตามที่สถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด
เพื่อให้มั่นใจว่ามีทรัพยากรเพียงพอในการครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเรียนและการดำรงชีวิตที่ญี่ปุ่น

หรือ

ในกรณีที่มีเงินในบัญชีไม่ถึง 800,000 บาท
จำเป็นที่จะต้องมีหลักฐานการรับรายได้ อยู่ที่ 50,000 บาท/เดือน โดยสามารถเเสดงได้จาก เอกสารการรับรองการทำงาน ที่ออกโดยบริษัทที่สังกัดอยู่

หลังจากได้รับการตอบรับเข้าศึกษาแล้ว นักศึกษาจะต้องยื่นขอวีซ่านักศึกษาที่ ศูนย์รับยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่น (JVAC) ในประเทศของตน
โดยต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบตอบรับจากสถาบัน (COA/ COE), ใบยื่นคำร้อง, หนังสือเดินทาง, หลักฐานทางการเงิน และอื่น ๆ เป็นต้น