ตอนที่10 โรงเรียนเซนมงคืออะไร แล้วต่างจากมหาวิทยาลัยตรงไหน

โรงเรียนเซนมงคืออะไร แล้วต่างจากมหาวิทยาลัยตรงไหน?

หลายๆคนที่สนใจอยากจะไปแลกเปลี่ยนหรือเรียนต่อญี่ปุ่นคงจะมีบางช่วงที่นั่งหาข้อมูลของสถานศึกษาหรือคอร์สเรียนต่างๆ
และอาจจะเคยเห็นประเภทของโรงเรียนที่เรียกว่า เซ็นมงกักโค หรือ เซ็นชูกักโค(専門学校、専修学校)
แล้วเกิดข้อสงสัยว่ามันคืออะไร แล้วต่างจากมหาวิทยาลัยตรงไหน


วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรงเรียนในรูปแบบนี้กัน
ก่อนอื่น เซ็นมงกักโค นั้นแปลตรงๆก็คือ โรงเรียนเฉพาะทาง หรือ Specialized training college นั่นเอง
โดยหลักสูตรจะเป็นการเรียนเจาะจงในสายอาชีพหรือทักษะในแต่ละด้านนั้นๆ และเน้นแต่ความรู้ที่จำเป็นต่อการนำไปใช้เวลาทำงานจริงๆ
รวมถึงการฝึกภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น ซึ่งโดยส่วนมากจะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 1 ปีขึ้นไป แล้วแต่สาขาที่เลือก และจะต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า  800 ชั่วโมง

ในจุดนี้จะต่างจากมหาวิทยาลัยตรงที่ตัดการเรียนภาคทฤษฏีบางส่วน วิชาทางเลือกต่างๆ รวมถึง การวิจัย ออกไป ทำให้หลักสูตรรวบรัดมากขึ้นนั่นเอง

จึงทำให้เซ็นมงกักโคมีคาบเรียนต่อ 1อาทิตย์ที่เยอะกว่ามหาวิทยาลัยทั่วไป

ซึ่งหลังจากจบหลักสูตรแล้วทางสถานศึกษาก็จะซัพพอร์ตเรื่องการสอบใบอนุญาต (certificate) ต่างๆที่จำเป็นกับสายอาชีพของตัวเอง รวมถึงให้คำแนะนำเรื่องหางานอีกด้วย
เรียกได้ว่าเหมือน one stop service แบบครบวงจรกันเลย จึงเป็นประเภทรูปแบบการศึกษาต่อที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากมหาวิทยาลัย


ในปัจจุบันคนญี่ปุ่นที่จบปริญญาตรีแล้วก็เลือกที่จะมาเรียนต่อเซ็นมงในเรื่องที่ตัวเองอยากทำจริงๆมากขึ้น นอกจากนั้นหลายมีโรงเรียนที่รับนักเรียนต่างชาติและมีระบบรองรับอย่างดีอีกด้วย

ในส่วนของสาขาวิชานั้นมีให้เลือกหลากหลายมาก เช่น บริหารธุรกิจ กฏหมาย ภาษา การบิน ท่องเที่ยว นิเทศ การโรงแรม ดนตรี อาหาร ดีไซน์ แฟชั่น
และอื่นๆอีกมากมาย 
หรือก็คือครอบคลุมสายอาชีพเกือบทั้งหมด และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามยุคสมัยอีกด้วย เช่นสาขาพัฒนาแอพพริเคชั่น เกมมือถือ หรือสปอร์ตเทรนเนอร์ ต่าง


และอีกหนึ่งอย่างที่ถือเป็นข้อดีก็คือจำนวนของเซ็นมงกักโคนั้นในปัจจุบันมีอยู่ถึง 3128 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่มหาวิทยาลัยนั้นมีอยู่ประมาณ 780 แห่ง ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วเซ็นมงนั้นมีจำนวนเยอะกว่าถึง 4 เท่าเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามข้อเสียของเซ็นมงก็อาจจะเป็นเรื่องการเรียนแบบรวบรัดที่จะต้องจบภายใน 1-2 ปี ทำให้ผู้เรียนนั้นเหนื่อยหรือหมดไฟไปกลางคันได้
ในบางกรณีพอเข้าไปเรียนจริงๆแล้วกลับเห็นว่าบรรยากาศของสายอาชีพนั้นๆไม่เหมือนกับที่ตัวเองคิดไว้ จนทำให้ผิดหวังและไม่อยากจะเรียนต่อก็มี

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนจะตัดสินใจเลือกเรียนในสายเซ็นมง คงจะเป็นเรื่องของการรู้เป้าหมายของตัวเอง และไปศึกษาเรื่องของสายที่ตัวเองต้องการเรียนต่อว่าสภาพจริงๆนั้นเป็นอย่างไรกันแน่

ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยหรือเซ็นมงนั้นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าผู้เรียนเหมาะกับแบบไหนและจะนำสิ่งที่ได้ไปปรับใช้กับเส้นทางในอนาคตอย่างไรมากกว่า  จึงไม่มีความตอบตายตัวว่าแบบไหนดีกว่ากัน

 
เครดิตภาพ https://image.minkou.jp/images/school_img/22796/750_d126c26efb8b8fd00d2689757971698502b91310.jpg